เป็นเกมที่หนืด เหนื่อย และลุ้นมากกว่าที่คิดทีเดียวสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สุดท้ายทำได้ตามเป้า เก็บผลการแข่งขันผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ในศึกยูโรป้าลีค หลังจากเกมแรกชนะไปเยอะ 4-0 เกมสองแม้ว่าจะเสมอ 0-0 ก็เข้ารอบไป มองไปในรายละเอียดของเกมมีประเด็นน่าสนใจมากมายในเกมนี้
ดาวรุ่งลงสนาม
เกมนี้ในไลน์อัพ 11 คนแรก และตัวสำรอง มีจุดน่าสนใจตรงที่ ม้านั่งสำรอง โซลชา เลือกที่จะใส่ชื่อของพวกดาวรุ่งลงมาเยอะเหมือนกัน นั่นทำให้หลายคนหวังว่าจะให้ดาวรุ่งเหล่านั้นสัมผัสกับเกมบ้าง แล้ว โซลชา ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มีการส่ง อาหมัด ดิยาร์โล่ และ โชล่า ชอเรทิเร่ ลงสนามด้วย ต้องบอกว่าทั้งสองคนถือว่าทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว สำหรับเวลาที่ได้ลงไป อย่าลืมว่าวัยไม่ถึง 19 ปี เล่นเกมยุโรป เจอกับ ทีมโซเซียดาด ที่เล่นเต็มที่ น่าสนใจว่าอนาคตของทั้งสองคนจะไปยังไงต่อ เราเชื่อว่าหากมีโอกาสเกมขาดๆ ทั้งสองคนน่าจะได้ลงสนามอีก
ไบญี่ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
เกมนี้ในไลน์อัพ 11 ตัวจริง จุดที่หลายคนสงสัยก็น่าจะเป็น การพักกัปตัน แมกไกรว์ ที่เกมนี้ไม่ได้ลงเป็นการจับคู่กันระหว่าง ไบญี่ และ ลินเดอเลิฟ แทน บอกตามตรงว่าแม้สกอร์จะห่าง 0-4 แต่ก็ยังหวาดเสียวอยู่ดี ปรากฏว่าพอลงสนามจริง ไบญี่ ทำได้ดีมาก มีความเร็ว และใจถึงกล้าบล็อกเป็นจุดเด่นเลย สภาพร่างกายก็ดี ถือว่าเป็นการกลับมาแบบถูกที่ถูกเวลาในช่วงที่กำลังจะเข้าไคลแมกซ์ของฤดูกาลพอดีเลย แฟนผีน่าจะพออุ่นใจได้บ้างมีเซนเตอร์แบ็คไว้หมุนเวียนมากขึ้น
เกมไหนก็ต้อง บรูโน่
เกมนี้แม้ว่าแมนยูจะมีโอกาสเข้ารอบมากกว่าจากเกมแรกที่ตุนไว้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้โซลชาเองก็ไม่ประมาทเหมือนกัน ส่งบรูโน่ แฟร์นันเดส ลงตั้งแต่นาทีแรกเลย หลายคนอาจจะบ่นว่า ทำไมไม่พักสักหน่อยก่อนจะเจอเชลซี แต่ก็ต้องยอมรับว่า โซลชา คิดถูกที่ไม่พัก บรูโน่ เพราะว่าเกมนี้แมนยู เจาะประตูฝ่ายตรงข้ามได้ยากมาก หากไม่มีบรูโน่ เอาจริงอาจจะโดนก่อนแล้ว ซึ่งหากโดนไปก่อนสัก 1-2 ประตู เกมมันอาจจะพลิกได้เลยเหมือนกัน ยังดีที่ลงไม่ครบเกมแล้วออกไปให้แรชฟอร์ดลงมาแทน